โภชนปฏิสังยุตต์ 30 สิกขาบท
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 7
[826] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต โดย
ไม่เอาใจใส่ ทำอาการดุจทิ้งเสียง.
พระบัญญัติ
172. 27. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาต
โดยเอื้อเฟื้อ.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตโดยเคารพ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ
บิณฑบาตโดยไม่เคารพ ทำอาการดุจทิ้งเสีย ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 8
[827] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต พลาง
แลไปในที่นั้น ๆ เมื่อเขากำลังเกลี่ยบิณฑบาตลงก็ดี เมื่อเกลี่ยเสร็จแล้วก็ดี
หารู้สึกตัวไม่. . .
พระบัญญัติ
173. 28. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักจ้องในบาตร
รับบิณฑบาต.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุพึงแลดูบาตรรับบิณฑบาต ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ
รับบิณฑบาตพลางเหลียวแลไปในที่นั้น ๆ ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 8 จบ
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 9
[828] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต รับ
แต่สูปะเป็นส่วนมาก . . .
พระบัญญัติ
174. 29. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตมี
สูปะเสมอกัน.
สิกขาบทวิภังค์
ที่ชื่อว่า สูปะ มีสองชนิด คือ สูปะทำด้วยถั่วเขียว 1 สูปะทำด้วย
ถั่วเหลือง 1 ที่จับได้ด้วยมือ.
อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตมีสูปะพอสมกัน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ
รับแต่สูปะอย่างเดียวเป็นส่วนมาก ต้องอาบัติทุกกฏ.